Catzaa - มังงะแปลไทย อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ
  • หน้าหลัก
  • มังงะเกาหลี
  • มังงะจีน
  • มังงะญี่ปุ่น
  • มังงะที่ยังไม่จบ
  • มังงะที่จบแล้ว
  • โดจิน
  • NICEOPPAI
  • Nekopost
  • novel-lucky
  • ดูอนิเมะ
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
ค้นหาขั้นสูง
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • มังงะเกาหลี
  • มังงะจีน
  • มังงะญี่ปุ่น
  • มังงะที่ยังไม่จบ
  • มังงะที่จบแล้ว
  • โดจิน
  • NICEOPPAI
  • Nekopost
  • novel-lucky
  • ดูอนิเมะ
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
Sign in Sign up
Prev
Next

[นิยายแปล]ครูผู้กล้า - ตอนที่ 15

  1. Home
  2. All Mangas
  3. [นิยายแปล]ครูผู้กล้า
  4. ตอนที่ 15
Prev
Next

Ch.15 – 「การปรนนิบัติของภรรยาเมดและคาบเรียนแรก」

Provider : จอมมารงอล

 

Chapter 15 – การปรนนิบัติของภรรยาเมดและคาบเรียนแรก

「จะกลับบ้านนแล้ว ไม่เอาแล้ววว…」

 

「ทะท่านลูซิเฟอรคะ ได้โปรดอย่าด่วนตัดสินใจไปเลยค่ะ」

 

ขณะที่เอาใบหน้ากดลงไปยังเนินอกอันนุ่มนิ่มของเรนะ ผมเองก็ยังหดหู่ไม่หาย

 

「ลูมิเอลกำลังรอผมอยู่…ผมควรไปซื้อของฝากที่ระลึกให้เธอบ้างง…..อย่างน้อยก็คิดว่าเธอคงจะดีใจ แต่ว่าคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรเลยเรนะมีความเห็นว่าไงเหรอ?」

 

 

「ท่านลูซิเฟอร์คำพูดของท่านนี่หมดอาลัยตายอยากมากค่ะ อย่าหดหู่เกินไปสิคะ….」

 

 

เรนะยังคงพยายามปลอบใจผมลูบหัวผมเบาๆแล้วก็ให้ผมหนุนตัก

 

 

「…มีคนที่เก่งและมีความสามารถมากมายในประเทศนี้…แต่ว่าไม่มีใครคิดว่าปีศาจเป็นภัยคุกคามเลยอ่า」

 

 

「ก็เพราะว่าตลอดช่วงเวลา 500 ปีที่ผ่านมานี้พวกเราไม่ได้มี สงครามใหญ่ๆ อะไรเลยนั่นเลยทำให้เราดูไม่เป็นภัยคุกคามอะไรเลยค่ะ สำหรับท่านลูซิเฟอร์อาจจะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่สำหรับมนุษย์แล้วมันไม่มีพิษภัยอะไรเลยค่ะ」

 

 

เรนะยังพูดต่อพร้อมกับปลอบใจผมไปเรื่อยๆ

 

「ก่อนหน้านั้นเอง ดิฉันเองก็เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องฑูตไปแล้ว แต่ว่าตอนนั้นมันไม่ควรพูดก็เลยไม่ได้บอกไปนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจักรวรรดิถึงไม่ได้โดนพวกเราตรวจสอบสักที ถ้าทำแบบนั้นก็คงไม่มีปัญหาคาใจให้กับท่านลูซิเฟอร์หรอกใช่ไหมค่ะ?」

 

 

「ก็เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับประเทศอื่นๆแล้ว มีหลายๆคนเองก็ไม่พอใจกับประเทศของเราเหมือนกัน ทั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ทางเหนือด้วยนะ ในเวลานั้นถ้าพวกเราไปมาบุกจักรวรรดิเองพวกนั้นก็คงมาช่วยด้วยเช่นกัน นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ผมนิ่งเฉยไงละ」

 

 

「ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่ฐานะที่ดิฉันควรจะถามก็เถอะคะ แต่ถ้าพวกเราใช้พลังทั้งหมดของเทเลเบลย์แล้วก็จะไม่มีศัตรูคนไหนที่เราเอาชนะไม่ได้หรอกคะ แม้ประเทศอื่นๆจะสุมหัวกันก็เถอะ」

 

 

ผมก็คิดแบบนั้นได้สักพักแล้ว

 

สิ่งที่เรนะพูดนั้นถูกต้อง แม้แต่ในหมู่ปีศาจเองก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน แต่ถ้างั้นก็ต้องมาประชุมกับผมที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของประเทศเทเลเบลย์ แล้วก็พวกเหล่ามาจัดการกับ ราชวงศ์ปีศาจ เพราะเวลาส่วนใหญ่ก็เสียไปกับเรื่องนั้นแหละ

 

 

「ในหมู่ราชวงศ์ก็ทำตัวมีปัญหาสร้างภาระให้พวกเราอยู่แล้ว ผมไม่อยากไปทำอะไรที่มันเสียเวลาแบบนั้นหรอก นับประสาอะไรกับการไปบุกจักรวรรดิ แค่ปัญหาในประเทศยังวุ่นวายเลย แล้วยิ่งไปหาเรื่องประเทศอื่นๆในตอนนี้นั้นมันค่อนข้างเป็นอะไรที่บัดซบสุดๆ」

 

 

「ครึ่งหนึ่งของประเทศนั้นก็เป็นของเราแล้ว ประเทศที่อยู่ทางตะวันตกของเทเลเบลย์เองก็ถูกลูซิเฟอร์ยึดไปใช่ไหมล่ะ?」

 

 

「ค่ะ ท่านลูซิเฟอร์ เรื่องราวนั้นก็ผ่านมา 1,500 ปี มาแล้วนะคะ.」

 

 

「อืมมมใช่แล้ว แม้ว่าผมจะไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เพราะว่าไม่มีใครถาม แต่นี่เป็นเวลาที่ดีแล้วว่าทำไมผมถึงฆ่าลูซิเฟอร์คนก่อน」

 

 

นึกย้อนกลับไปแล้ว ช่วงเวลานั้นมีแต่ความบ้าคลั่งและการนองเลือด แนวโน้มของสงครามไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอต่างก็ต้องต่อสู้กัน ปล้นสะดม ทั้งยังมีภัยคุกคามมากมาย ทุกๆอย่างถูกจัดการไม่มีความปราณี บางครั้งก็อดไม่พอใจไม่ได้ที่ต้องเห็นเหล่าเพื่อนๆถูกสังหารไปทีละคนๆ ชีวิตที่คิดจะใช้แบบเสียเปล่ามันก็ต้องสลัดมันทิ้งไป กัดฟันลุกขึ้นสู้กับเผด็จการจนในที่สุดก็จัดการได้สำเร็จ

 

「เขาคนนั้นพยายามจะยึดทวีปทั้งหมดเป็นของตัวเองและไม่ใช่ว่าพวกเราขาดพลังที่จะทำเช่นนั้น แต่ว่าการนองเลือดมันมากเกินไป ผมที่ทนไม่ได้จึงได้สังหารลูซิเฟอร์คนก่อน」

 

 

「แต่ว่าทำไมละคะ?แบบนั้นก็ทำให้ประเทศของเผ่าปีศาจรุ่งโรจน์ไม่ใช่เหรอครับ?」

 

 

「เป้าหมายดั้งเดิมของคนๆนั้นคือยึดครองโลกอย่างไรก็ตามสิ่งนั้นแหละจะพาไปสู่จุดเริ่มต้นของจุดจบ」

 

 

ผมอธิบายแบบขาดช่วงไปเพราะเรนะที่กำลังสับสน

 

「คนที่มีอำนาจล้นมือมักจะไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่เสมอ การทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นเพียงการสนองตัณหา แถมยังไล่ล่าราวกับเห็นผู้คนนั้นเป็นของเล่น พลังที่ไม่สามารถควบคุมได้ทำให้ตัวเขานั้นลืมจุดประสงค์เดิมไป หากทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆพื้นที่ล่าของหมาป่าผู้หิวโหยตัวนี้ก็จะหมดไป แต่ในที่สุดแล้วหากไม่เหลือใครให้ล่าสุดท้ายก็จะกลายเป็นการล่าพี่น้องของตัวเอง จนสุดท้ายก็กลายเป็นหมาป่าเดียวดายผู้บ้าคลั่ง」

 

 

「…!」

 

 

「ลูซิเฟอร์คนก่อนก็เป็นเช่นนั้นไม่ได้เข้าใจถึงสิ่งนั้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องฆ่าเขาและยกตัวเองขึ้นเป็นราชาเพื่อหยุดยั้งเหล่าปีศาจที่กำลังได้ใจและระเริงใจไปกับการกระทำอันบ้าคลั่งนั่น」

 

「ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ไม่เห็นด้วยกับวิธีการก่อนหน้านั้นและยังคงเข่นฆ่ากันต่อไป…ดิฉันรับรองได้ว่าจะไม่มีประเทศเทเลเบลย์อย่างทุกวันนี้」

 

 

แรงกระตุ้นของปีศาจในยุคนั้นคือการทำลายล้าง ทุกคนต่างโหยหาสงครามและเลือดเนื้อ แรงกระตุ้นนั้นไม่สามารถหยุดได้หากไม่หยุดต้นเหตุของความบ้าคลั่งนั่น

 

ปีศาจในตอนนั้นไร้ซึ่งสติ มืดมัวหมองและอธิบายได้ว่าเป็นดั่งพวกปีศาจพวกบ้าคลั่งซึ่งมีแรงกระตุ้นในการทำลายล้างมากกว่าปีศาจทั่วๆไป

 

「ในที่สุดแล้วอำนาจที่ล้นมือนั่นก็จะย้อนมาทำร้ายตัวเองสินะ เข้าใจล่ะคะ」

 

 

「ใช่แล้ว…บางครั้งพวกเราเผ่าปีศาจต่างก็ไม่สามารถควบคุมพลังที่ตัวเองมีอยู่ได้ ในเวลานั้นเสาหลักทั้งเจ็ดของราชวงศ์ปีศาจ(7บาป) อยู่ในสภาพแบบนั้นเลย…ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นแม้ว่าผมจะเป็นพวกชั้นต่ำ(ไม่ใช่ขุนนาง) แต่ก็มีพลังมากกว่าคนรุ่นก่อน」

 

ยังพอจำได้เป็นครั้งคราวที่ต้องสังหารเหล่าบรรดาพี่น้องของตัวเอง โดยธรรมชาติแล้วศัตรูส่วนใหญ่มักเป็นพวกหัวโบราณ รวมถึงพวกเสาหลักคนอื่นๆและลูกน้องของพวกนั้น…ทั้งหมดนั่นที่ต่อต้านโดนผมบดขยี้ แม้ว่าบางส่วนอาจจะเป็นเพราะความเติมเต็มความต้องการส่วนตัว แต่ก็ยังต้องทำเพราะยังมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบก็คือการดูแลประเทศ

 

คนที่รอดชีวิตมีเพียงแค่เหล่าเสาหลักเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นแล้วถูกสังหารทั้งหมดเพราะการต่อต้าน

 

แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของเราก็ตาม…

 

แค่ย้อนคิดกลับไปเล็กน้อยก็ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนแถมยังชวนคลื่นไส้อีกต่างหาก

 

「…ดูเหมือนจะคุยจริงจังมากเกินไปหน่อย เริ่มเบื่อแล้วแหะ.」

 

 

「ต้องขอโทษอย่างยิ่งเลยค่ะท่านลูซิเฟอร์ ดูเหมือนว่าดิฉันจะล้ำเส้นเกินไปแล้วคะ.」

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่าเรนะ อย่างไรก็ตามได้โปรดลูบหัวผมที ลูบอีกเยอะๆ.」

 

 

「ค่ะ นายท่าน」

 

ผมก้มตัวลงนอนไปบนเตียงพร้อมกับเรนะและราวกับว่าผมกำลังจมอยู่ในห้วงของนิทราผมจึงไม่ได้ขัดขืนอะไรมากเป็นพิเศษถ้าเธอ

 

… ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ในจักรวรรดิอีกแล้ว ควรจะทำยังไงดีนะ…

 

อืมม จะยังไงก็ช่างเถอะ เรื่องนั้นก็ปล่อยไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ ไว้ค่อยคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ที่หลัง

 

วัดถัดมา

 

ผมเข้ารับฟังการบรรยายวิชาเวทมนตร์ในตอนเช้าและกำลังรอเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ จ้องออกไปนอกหน้าต่าง อาจารย์นั้นสอนเวทย์พื้นฐานเป็นสิ่งที่แม้แต่เด็กมนุษย์ก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆดังนั้นเลยไม่ได้สนใจอะไรมาก

 

โกเอ็นจุทสึ คือ ไฟ ชินซุย จุทสึ คือ น้ำ ไรโกว จุทสึ คือ สายฟ้า โดว์ริว จุทสึ คือ ดิน และฟูจิน จุทสึ คือลม ทั้งหมดนี่ต่างคือห้าธาตุพื้นฐานของเหล่าเวทมนตร์ทั้งหลาย

 

จากนั้นก็เวทย์แบบพิเศษ ชินเซย์ จุทสึ ซึ่งเป็นเวทย์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ และ ไคเมย์ จุทสึ ที่เป็นเวทย์ความมืด ถ้ารวมเหล่านี้แล้วบรรดาธาตุทั้งหมดแล้วก็ประกอบด้วย 7 ธาตุพื้นฐาน ยังไงก็ตามมันก็มีข้อยกเว้น

 

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้รู้ไปก็ไม่มีอะไรน่าภูมิใจนักหรอก อย่างน้อยถ้าอยากเข้าโรงเรียนนี้ก็ต้องรู้เรื่องแบบนี้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ผมกล้าพนันได้เลยว่าแม้แต่พวกเหล่าครึ่งสัตว์เองก็คงจะรู้เรื่องแบบนี้เช่นกัน

 

「..ดอร์! ทีโอดอร์! นี่ ได้ฟังรึเปล่าเนี่ย?!」

 

 

「อะไรครับ?」

 

 

อาจารย์ผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่เรียกผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

「อย่ามาตอบคำถามด้วยคำถามสิฟะ?! ข้าถามว่าแกรู้มั้ยว่าวงเวทย์นี้มันคืออะไร!」

 

 

ขณะที่มองไปยังกระดานดำสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นองค์ประกอบของเวทย์สายฟ้า

 

ยังไงก็ตามตัวอักษรที่สลักอยู่ภายในวงเวทย์นั้นดันเกี่ยวกับเวทย์ไฟ เพราะเหตุนั้นวงเวทย์นี้ใช้งานไม่ได้

 

ดังนั้น ผมเลยพูดออกไป

 

「ใครกันที่มันวาดวงเวทย์ได้ห่วยแตกขนาดนี้ครับเนี่ย?」

 

 

「ว่าไงนะ…?!」

 

 

อ้อเข้าใจละ อาจารย์วาดสินะ เผลอหลุดพูดสิ่งในใจเกินไปหน่อย

 

「ก็มันไม่มีสูตรเวทย์ในวงเวทย์เลยนะสิ」

 

 

「งั้นเหรอ ถ้างั้นอธิบายได้ไหมว่าทำไม?」

 

 

「แม้ว่าจะใช้องค์ประกอบของธาตุสายฟ้า แต่ตัวอักษรที่สลักอยู่บนวงเวทย์นั้นดันเป็นเวทย์ไฟน่ะสิ.」

 

 

「ฟุฟุฟุ…」

 

 

อาจารย์คนนั้นมีรอยยิ้มร้ายๆแฝงอยู่

 

และนั่นก็ส่งมาถึงผม คนนี้ตั้งใจเอาโจทย์ง่ายๆมาให้เพราะคิดว่าผมจะทำไม่ได้สินะ

 

ถ้าตอบไปแบบธรรมดา ก็คงจะภูมิใจว่าผมตอบผิดและพยายามบอกว่าผมน่ะเป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆคนนึง

 

「แม้ว่าจะเป็นเหล่านักเรียนทุน แต่ข้าก็คงเดาได้แค่ว่าเหล่าเด็กๆคงคิดได้แค่นั้นสินะ」

 

 

「อยากจะบอกว่านั้นเป็นวงเวทย์ซ้อนเวทย์งั้นเหรคครับ?」

 

 

「ว่าไงนะ?!」

 

ในขณะที่ผมยืนขึ้นและเดินไปหาอาจารย์ที่ห้องเรียน ทั้งห้องก็ส่งเสียงดัง

 

「การวาดวงเวทย์ของอาจารย์น่ะมันไม่ใช่สูตรที่ถูกต้องสักหน่อยนะครับ แม้ว่าจะบอกว่า 「เปลวเพลิงเอ๋ย จงแผดเผาพื้นที่โดยรอบ」มันก็คงจะไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไรนะครับเพราะฐานของวงเวทย์นั้นเป็นเวทย์สายฟ้า อย่างไรก็ตามหากเพิ่มสิงนี้ไปยังจุดเริ่มต้นของประโยคในวงเวทย์แล้วละก็:」

 

 

ผมเขียน 「สายฟ้าเอ๋ย จงเผยโฉม」 ที่จุดเริ่มต้นของตัวอักษรในวงเวทย์บนกระดานดำ

 

「ด้วยการเขียนเช่นนี้ 「สายฟ้าและเปลวเพลิงเอ๋ย จงเผยโฉมเพราะเผาไหม้พื้นที่โดยรอบ」 ก่อนอื่นก็ให้เวทย์สายฟ้าเปิดใช้งาน จากนั้นขณะที่พลังเวทย์กำลังไหลไปยังที่เวทย์สายฟ้าก็ให้เวทย์ไฟถูกเปิดใช้งาน ดังที่เห็นในข้อความนั่นมันจะเผาผลาญสิ่งต่างๆโดยรอบ…แต่ว่าด้วยการจะสร้างวงเวทย์ไฟที่ทรงพลังนั้น เวทย์ระดับ 2 ทำไม่ได้หรอกครับ」

 

 

「กรอดกรอดกรอด….!」

 

 

「ถ้างั้นให้ผมวาดวงเวทย์ได้รึเปล่าครับ?」

 

 

ขณะที่ดีดนิ้วออกมาวงเวทย์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา ทำให้พวกนั้นตกใจ

 

「ใช้โดยไม่ร่ายเลยงั้นเหรอ?!」

 

 

「ใช้วงเวทย์ซับซ้อนได้ง่ายขนาดนั้นเลย…」

 

 

ดูเหมือนว่าคนที่ไม่คุ้นเคยกับเวทมนตร์จะประหลาดใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

 

「อืมม ไม่ต้องห่วงไปไม่ให้มันทำงานหรอกครับ ก็อย่างที่เห็นการที่วงเวทย์ปรากฏในลักษณะนี้แสดงให้เห็นแล้วว่ามันผิดตั้งแต่แรก และหากผ่านก็แก้ไขและเรียบเรียงใหม่ ถ้าหากมันผิดแค่ตรงส่วนแรก นั่นก็หมายความว่าแก้แค่ตรงส่วนั้นก็ใช้เวทย์ไฟผสมสายฟ้าได้ด้วยวิธีนี้」

 

 

นักเรียนบางคนดูเหมือนจะตะโกนออกมาด้วยความสับสน

 

ถ้าไม่คุ้นเคยกับเวทย์ก็ไม่สามารถเข้าใจเวทย์ซ้อนเวทย์ได้ในครั้งแรกหรอก

 

อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้เลือกจะเข้าสาขาเวทย์ในก่อนหน้านี้ด้วย

 

「เทคนิคเวทย์ซ้อนเวทย์นั้นสามารถเพิ่มชั้นให้มันได้มากขึ้น ไม่เพียงแค่สองเท่าหรือสามเท่า แต่ยังสามารถใช้เวทย์ที่มีองค์ประกอบของธาตุทั้งเจ็ดรวมถึงธาตุศักดิ์สิทธิ์และความมืดได้อีกด้วย」

 

 

「เป็นไปไม่ได้หรอกน่า!」

 

 

อาจารย์เองดูเหมือนจะเถียงหัวชนฝา

 

「มันมีขีดจำกัดสำหรับการใช้เวทย์ซ้อนเวทย์อยู่นะเห้ย ไม่ว่าจะฝึกยังไง ก็ได้แค่ 3 ชั้น แม้ว่าแกจะมีความสามารถสูงแค่ไหนแต่ก็มีขีดจำกัดสูงสุดที่แค่ 4 นั่นแหละ! หากมีมากกว่านั้นความสามารถในการคำนวณของสมองมันจะทำงานหนักจนตามเวทย์ของแกไม่ทัน!」

 

 

「อืม สำหรับอาจารย์อาจจะไม่…ได้นั่นแหละนะ แต่ยังไงมันก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามจำนวนการกลืนกินพลังเวทย์นั้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกันเพราะเวทย์จะระดับสูงขึ้นหากใช้เวทย์ซ้อนเวทย์มากขึ้น.」

 

 

「สิ่งที่ข้ากำลังจะพูดนั่นไม่ใช่แค่ข้าโว้ย แต่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกคนตั้งแต่แรกแล้ว!」

 

 

หือออ บางทีอาจจะสมเหตุสมผลก็ได้ แต่ว่าผมทำได้นี่น่า แต่จากสิ่งที่บอกดูเหมือนคนแถวนี้จะใช้เวทย์ได้ห่วยบรม ในกรณีของเวทย์ซ้อนเวทย์แบบง่ายๆก่อนหน้านี้อาจจะทำได้หากได้ฝึก แต่ปัญหาไม่ใช่แบบนั้น

 

อยากให้ลิซและจูเลี่ยนอยู่นี่จังเลยนะ ถ้าเป็นพวกนั้นละก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน

 

เวทย์นั้นขึ้นกับพรสวรรค์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะมีความรู้มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้หากปราศจากพรสวรรค์

 

แม้ว่าจะมีพลังเวทย์ แต่มนุษย์ก็มีขีดจำกัดในฐานะเผ่าพันธุ์เช่นนั้นเอง ตัวอย่างเช่นแม้ว่าจะมีพลังที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าร่างกายของพวกเขารับภาระเหล่านั้นไม่ได้

 

ด้วยวิธีการนี้เองสิ่งที่ทำไม่ได้แม้จะฝึกหนักแค่ไหน อย่างที่อาจารย์พูดมันก็คงจะถูกต้องละมั้ง?

 

「ขอโทษด้วยครับที่มาก้าวก่ายมากเกินไป ขอกลับไปนั่งนะครับ?」

 

 

「เออ รีบกลับไปนั่งที่ได้แล้ว….」

 

ผมนั่งลงโดยหมดความสนใจ

เฮ้อน่าเบื่อจริงๆเลยนะ

แก้คำว่าจัสสุเป็นจุทสึตามคำแนะนำ

Prev
Next

Comments for chapter "ตอนที่ 15"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

    © 2017 Madara Inc. All rights reserved

    Sign in

    Lost your password?

    ← Back to Catzaa - มังงะแปลไทย อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ

    Sign Up

    Register For This Site.

    Log in | Lost your password?

    ← Back to Catzaa - มังงะแปลไทย อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ

    Lost your password?

    Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

    ← Back to Catzaa - มังงะแปลไทย อ่านการ์ตูน อ่านมังงะ